*** “อานิสงส์บุญ…. ที่ได้ถวายทาน” ***
หวัดดียามเช้าจ้า กับธรรมแห่งอานิสงส์การถวาย
คือเหล่าทุกคนได้ไช้ได้อาศั
การสร้าง ห้องน้ำ สะพาน แท้งค์น้ำ หรืออะไร เพื่ออำนวยความสะดวก ต่อสาธารณะชน ล้วนจัด อยู่ในวิหารทานทั้งสิ้น
การสร้างวิหารทาน หากทำเพื่อเป็นไปในทางสาธาร
ผลก็เป็นวิบากอีกอย่าง หากกระทำเพื่อสาธารณะชน ให้กับผู้มีศีลมีธรรม แต่ทำอย่างไม่ปราถนาอะไร ถือว่าเป็นบุญเป็นกุศล วิบากก็แสดงผลอีกอย่าง
หากกระทำเพื่อสาธารณะชน ให้กับผู้มีศีล ผู้มีธรรม และแสดงเจตนา เป็นอนุสัยทาน เพื่อเกื้อหนุนบุญส่งไปสู่ค
ธรรมชาติแห่งการเสียสละทาน เรียกว่ากรรม เป็นกุศลกรรม มันมีวิบากเป็นผลสนองเจ้าขอ
ในที่นี้ เราจะกล่าวเฉพาะการถวายเรือ
การทำทาน กับสัตว์ ก็ได้วิบากกุศลอย่างหนึ่ง แต่ไม่เท่ากับคน
การทำทานกับคนก็ได้วิบากกุศ
การทำกับกลุ่มคนที่มีศีล ก็ไม่เท่ากับกลุ่มคนที่ มีศีลพร้อมสมาธิ
การทำกับกลุ่มคนที่มีศีลพร้
อานิสงส์นั้นมีวิบากแตกต่าง
สัตว์นั้น เราเอาความผูกพัน เข้าไปยึด เอากิเลสเข้าไปโถม แม้จะเลี้ยงดูอุ้มชู มากมายแค่ไหน อานิสงส์ไม่เท่ากับเลี้ยงดู
เพราะการเป็นคนเขาเป็นผู้มี
คือขาดสติและการพิจารณา เพื่อความเป็นไปแห่งความพ้น
คนทั้งหลายเช่นกัน แม้อยู่ในร่างคน แต่หากปล่อยเวลา จมอยู่กับความสุขในการกิน ความสุขในการนอน ความสุขในการสืบพันธุ์ และรู้สึกถึงความระหวาดระแว
นี่. เหตุเพราะขาดปัญญา ตรึกตรองตามหลักอริยสัจ ง่ายๆ ก็คือ ขาดหลักเหตุหลักผล แห่งอริยะปัญญา ที่อุตสาห์เกิดมาเป็นคนทั้ง
การทำทานนี้ หากเราถวายเรือ อย่างเช่น การช่วยผู้คนที่เขาน้ำท่วม กุศลวิบาก ก็แตกต่างออกไปอีก
ผลแห่งวิบากก็คือ เราจะเป็นผู้ที่มีบริวารช่ว
เป็นที่พึ่งพาของเหล่าบริวา
หากถวายให้กับหมู่ผู้ทรงศีล
แต่หากแสดงเจตนา ถวายเพื่อเป็นปัจจัยแห่งควา
เช่นพบพาผู้ทรงคุณ เพื่อชี้นำทางในการออกจากทุ
อันว่ากรรมนี้ มันเป็นนิยามแห่งธรรมชาติ หนึ่งในห้า ที่พระพุทธองค์ ทรงชี้เอาไว้ นอกจากวิสัยภูมิแห่งพระโพธิ
เรียกว่าพุทธวิสัย เหล่าสาวกภูมิ ท่านก็ชี้ได้ไปตามปัญญาภูมิ
แต่สรุปแล้ว ธรรมอันเป็นวิบากแห่งกรรมที
ธรรมนี้ อาศัยเจตนา ของเจ้าของเป็นเหตุ ส่วนวัตถุ เป็นแค่องค์ประกอบที่ตั้งแห
วัตถุทั้งหลาย ไม่ใช่ตัวบุญ ฉะนั้น จึงไม่ได้วัดกำลังแห่งบุญด้
บุญทั้งหลาย อาศัยใจเกิด ใจที่มันสละแม้วัตถุใหญ่ๆ สำหรับใจเจ้าของ ย่อมเป็นบุญใหญ่ แม้วัตถุที่ว่าใหญ่นั้น จะเล็กและเพียงเล็กน้อยสำหร
บุญกุศลแห่งวิบาก ย่อมได้ใหญ่กว่า สำหรับเรา บางคนทำวัตถุใหญ่ แต่กำลังเขามาก มันก็เป็นบุญเล็กน้อยสำหรับ
ธรรมชาติย่อมปรับความสมดุลใ
เราทำทานต่อให้ยิ่งใหญ่แค่ไ
เช่นนี้ ทานทั้งหลาย ไม่ได้ช่วยให้ใจนี้ พ้นภูมิสัตว์ไปได้ แม้จะทำทานประเภท วิหารทาน อันเป็นทานสูงสุดก็ตาม
วัตถุทานทั้งหลาย ที่เป็นทาน มีวิบากอานิสงส์สูงสุดเป็นไ
เราถวายเรือ สร้างวัด สร้างวัตถุให้แก่สาธารณะมาก
แต่เป็นพระราชาแห่งจิ้งจก แห่งไส้เดือน แห่งแมลงสาป มีอาหารที่อยู่ เครื่องสืบพันธุ์แห่งนารี อันสุขสบาย
นี่..เพราะขาดปัญญาอบรมใจให
คือ ต้องกลายร่างไปเป็นสัตว์
การทำบุญอย่างเปรตก็คือ การทำบุญ โดยขาดสติ โยนิโส หรือทำบุญเพื่อคาดหวัง ไม่ได้รับการอบรมธรรมแห่งกา
ผลแห่งวิบาก ยังอาจกระชาก ลงสู่อบายภูมิได้ ยังเป็นใจที่ไว้วางใจไม่ได้
แต่การทำบุญอย่างปราชญ์ คือเมื่อทำบุญแล้ว พึงมีสติพิจารณาธรรม อันเกิดจากธรรมแห่งสัตบุรุษ
ศีลนี้ จะไปอบรมสมาธิให้เกิดปัญญา ความละอายใจเกรงกลัวต่อความ
ศีลเช่นนี้ เป็นศีลวิมุติ ที่เกิดความบริสุทธิ์ด้วยใจ
เมื่อศีลเต็ม ใจจะเกิด อภัยทานขึ้นมา ใจที่มีอภัยทาน ย่อมเป็นใจที่ปิด อบายภูมิ เพราะการอภัย ที่มีเหตุปัจจัยมาจากความมี
เป็นธรรมแห่งอริยชน ที่ก้าวขึ้นมาสู่ความเป็นชา
นี่..พระโสดาบัน ปิดอบายภูมิอย่างแน่นอน นี่..เป็นชาวบ้านชั้นดี ที่ยังมีเมียได้ เป็นชาวบ้านที่มีใจเป็นศีล ที่เต็มเปี่ยมไปด้วย อภัยทาน แม้แต่ศัตรูที่มารุกรานใจ
เช้านี้ ขอให้ทุกคน ก้าวขึ้นมาเป็นใจที่อย่างน้
การฟังธรรมก็บรรลุเป็นพระโส
….เช้านี้ ขอหวัดดี พระโสดาบันทุกท่านที่จะเป็น
พระธรรมเทศนา จากบทธรรม เรื่อง อานิสงส์..แห่งการถวายเรือ ต่อมาอีกหน่อย ณ วันที่ 3 กรกฎาคม 2557 โดย พระอาจารย์ธรรมกะ บุญญพลัง